สวัสดีค่ะ ทุกคน กลับมาเจอกันอีกแล้วนะคะ วันนี้บีก็มีไอเท็มเด็ด ๆ เกี่ยวกับงานฝีมือมาฝากทุกคนอีกเช่นเคยค่ะ
บีเพิ่งจะได้รับของชิ้นนี้มาไม่นาน เป็นเครื่องถักนิตติ้งขนาดเล็ก ต้องขอขอบคุณเว็ปไซต์ Banggood ที่ส่งอุปกรณ์งานฝีมือดี ๆ แบบนี้มาให้บีได้ทดลองใช้ค่ะ

ในกล่องมีอะไรบ้าง
ในกล่องประกอบด้วยอุปกรณ์ดังนี้
เครื่องถักนิตติ้ง
ไหมพรม 4 ม้วน
เข็มเย็บไหมพรม
เข็มโครเชต์
และคู่มือการใช้งานค่ะ
ส่วนประกอบของเครื่อง
ด้านบนมีตะขอเกี่ยวไหมจำนวน 22 เล่ม
มีฟันเล็ก ๆ อยู่ระหว่างตะขอเกี่ยว
ตรงกลางเป็นช่องที่ชิ้นงานจะออกมา
ด้านหน้ามีที่ล็อคไหมที่ใช้ถัก
ด้านข้างมีสวิชไว้สำหรับปรับเป็นการถักแบบแบนกับถักแบบวงกลม โดยตำแหน่งล่างเป็นการถักแบบวงกลม และตำแหน่งบนเป็นสำหรับถักแบบแบน
ด้านข้างอีกด้านเป็นด้ามปั่นไหม
ด้านล่างมีขาตั้งอยู่ 4 ขา ซึ่งในชุดไม่มีตัวล็อคติดกับโต๊ะมาให้ ทำให้เวลาที่เราปั่นไหม ตัวเครื่องจะสั่นและเลื่อนได้ วิธีแก้ทำได้ง่ายแค่ใช้เทปโฟมติดที่ขาทั้ง 4 กับโต๊ะ เพื่อช่วยยึดอุปกรณ์ จะทำให้การปั่นไหมทำได้คล่องขึ้นค่ะ

ไหมพรมที่เหมาะสำหรับการถัก
ไหมที่เหมาะสำหรับเครื่องนี้ คือไหมพรมขนาด 4 ply เช่น ไหมอีเกิล หรือ ไหมดาหลาค่ะ ถ้าเราใช้ไหมเส้นใหญ่ ไหมอาจติดกับตะขอหรือฟันของเครื่อง แล้วทำให้เครื่องติดและปั่นไหมได้ยากค่ะ
วิธีใส่ไหม/วิธีเริ่มต้นงาน
ในวันนี้บีจะสาธิตวิธีทำชิ้นงานแบบวงกลมค่ะ เพราะฉนั้นสวิชด้านข้างต้องอยู่ตำแหน่งล่างค่ะ
เนื่องจากเครื่องไม่มีจุดเริ่มต้นของแถวไว้ให้ บีก็จะใช้มาร์คเกอร์ขีดเส้นบนตะขอแรกที่ตรงกับที่ล็อคด้ายและอีก 2 เส้นที่ด้านข้างตะขอด้วยค่ะ เพื่อจะได้รู้ว่าจุดเริ่มต้นแถวอยู่ตรงไหนค่ะ

สำหรับไหมพรมพยายามดึงปลายไหมออกจากกลางม้วนจะทำให้ม้วนไหมพรมไม่กลิ้งไปมา แล้วเอาม้วนไหมพรมวางไว้ข้างล่างโต๊ะค่ะ
จากนั้นใส่ไหมลงตรงกลางเครื่อง แล้วคล้องไหมเข้าที่ด้านหน้าของตะขอแรก หมุนด้ามปั่นไปด้านหน้า ตะขอถัดไปจะสูงขึ้นมา ก็เอาเส้นไหมคล้องไว้ด้านหลังตะขอนั้น
เราจะคล้องไหมแบบสับฟันปลาให้ครบ 1 รอบค่ะ
พอครบรอบแล้ว ตะขอแรกก็จะมาอยู่บริเวณที่ล็อคด้าย และคล้องไหมด้านหลังหมุดสุดท้ายด้วยค่ะ
ใส่ไหมลงที่ล็อคไหม ให้ไหมผ่านช่องเล็ก ๆ ด้วยนะคะ แล้วก็ปิดที่ล็อคค่ะ
ก็จะเสร็จการเริ่มต้นงานแล้วค่ะ

วิธีถักชิ้นงาน
วิธีถักไหมพรมทำได้ง่าย ๆ แค่หมุนด้ามปั่นไปด้านหน้าเรื่อย ๆ ค่ะ,
ระหว่างการปั่นไหมช่วงแรก ๆ อาจต้องดึงปลายไหมเพื่อช่วยดึงให้เส้นไหมติดอยู่กับฟันของเครื่องได้ดีขึ้นค่ะ
พอปั่นครบ 1 รอบ จะเห็นว่ามีเส้นไหมอยู่ที่ฟันขอเครื่อง 1 ช่อง สลับ ว่าง 1 ช่องค่ะ

แต่ตั้งแต่รอบที่ 2 เป็นต้นไป จะมีไหม 1 เส้นอยู่บนตัวฟันของเครื่องทุกช่องค่ะ
ยกเว้นช่องทางซ้ายของที่ล็อคไหม เป็นแค่หลักเดียวที่ไม่มีไหมอยู่ตรงฟันของเครื่อง, เนื่องจากตัวของตะขอดันไหมออกไปแล้วค่ะ, ส่วนหลักอื่น ๆ มีเส้นไหมอยู่ 1 เส้นค่ะ
แล้วก็หมุนด้ามปั่นไปด้านหน้าเรื่อย ๆ ค่ะ

ระหว่างการปั่นไหมบีจะเช็คที่บริเวณขวาของที่ล็อคไหม ว่ามีเส้นไหมอยู่ที่ฟันของเครื่องหรือไม่
ถ้าฟันซี่ไหมไม่มีเส้นไหมอยู่ แสดงว่าเส้นไหมหล่นออกไป ซึ่งจะทำให้ลายตรงนั้นหลุดไป และอาจทำให้ไหมติดตัวเครื่องด้วยค่ะ
บีจะแก้ด้วยการ หมุนด้ามปั่นเข้าหาตัว ตะขอก็สูงขึ้นมา แล้วใช้เข็มเกี่ยวไหมเส้นล่างให้มาอยู่ที่ฟันของเครื่อง
หลังจากชิ้นงานได้ยาวประมาณ 5 cm บีจะติดคลิปหนีบกระดาษรอบชิ้นงาน เพื่อถ่วงน้ำหนักให้ห่วงไหมติดอยู่กับฟันของเครื่องได้ดีขึ้นค่ะ

วิธีต่อไหมหรือเปลี่ยนสีไหมพรม
ถ้าต้องการเปลี่ยนสีไหมพรม บีจะหมุนจนที่ปั่นจนครบรอบ ให้จุดที่เรามาร์คไว้มาอยู่ตรงที่ล็อคไหม แล้วจึงเปลี่ยนสีไหมพรม เนื่องจากตำแหน่งที่เปลี่ยนสีไหมพรมจะได้ตรงกันตลอดชิ้นงานค่ะ
แต่ถ้าเป็นกรณีไหมหมด แล้วจะต่อไหมสีเดิม ก็ไม่จำเป็นต้องให้จุดเริ่มต้นอยู่ตรงที่ล็อคไหมก็ได้ค่ะ
ในวันนี้บีจะสาธิตการเปลี่ยนไปใช้ไหมพรมอีกสีหนึ่งค่ะ
ตัดไหมสีเดิมเหลือปลายไหมไว้ยาวประมาณ 15 cm จากที่ล็อคไหม แล้วเอาไหมสีเดิมออกจากที่ล็อค
เอาไหมสีไหมใส่ในที่ล็อคแทน ให้ไหมสีเดิมอยู่ด้านหน้าตะขอทางขวาของตะขอแรกด้วยค่ะ แล้วปิดที่ล็อคไหม
จับปลายไหมทั้งสองไว้ แล้วหมุดด้ามปั่นไปด้านหน้า จนเครื่องเกี่ยวไหมสีไหมลงไปด้านล่าง

แล้วจับปลายไหมทั้งสองมัดติดกัน โดยบีจะมัดแค่ครั้งเดียวค่ะ
ให้ปมไหมอยู่ใต้บริเวณที่มีลักษณะคล้ายกับเล็บค่ะ
แล้วปั่นไหมต่ออีก 4 – 5 แถว
จากนั้นก็มัดปมไหมอีกครั้งให้แน่นค่ะ

วิธีปลดงานออกจากเครื่อง
เมื่อได้ความยาวตามต้องการแล้ว ให้ตะขอที่มีเส้นมาร์คอยู่ตรงกับที่ล็อคด้วยค่ะ
ตัดไหมให้เหลือยาวประมาณ 30 cm เปิดที่ล็อคไหมออก
ใส่ไหมในเข็มเย็บไหมพรม
หมุดด้ามปั่นไปด้านหน้า ให้ตะขอลงด้านล่าง สอดเข็มผ่านห่วงทางซ้ายจากปลายไหมพรม จากด้านในตัวเครื่องมาด้านนอก

หมุดด้ามปั่นไปด้านหน้า ให้ตะขอถัดไปลงด้านล่าง สอดเข็มผ่านห่วงถัดไป ในทิศเดิมคือจากด้านในตัวเครื่องมาด้านนอก
ทำต่อไปให้ครบทุกห่วงค่ะ
เมื่อครบแล้ว ก็เอาชิ้นงานออกจากเครื่อง
แล้วดึงปลายไหมเพื่อปิดช่องว่างค่ะ
ส่วนปลายไหมตอนเริ่มงาน ก็แค่ดึงปลายไหมเพื่อปิดช่องว่างค่ะ
วิธีเก็บปลายไหม
เราจะเก็บปลายไหมด้วยการแทงเข็มรอบหลักที่เรารวบไว้ค่ะ
เมื่อครบรอบแล้ว บีจะแทงเข็มในทิศตรงข้าม ก็จะข้าม 1 ช่อง แล้วแทงเข็มต่อไปในทิศตรงข้ามค่ะ
จากนั้นแทงเข็มเข้าไปในชิ้นงาน และตัดไหมทิ้งค่ะ
อีกฝั่งก็ทำเหมือนกันค่ะ
ถ้าต้องการทำเป็นหมวก ก็พับอีกด้านเข้าไปด้านใน แล้วเย็บด้านบนติดกันค่ะ
ก็จะได้หมวกใบเล็ก ๆ แล้วค่ะ
เครื่องนี้สามารถทำหมวก ผ้าพันคอ หรือ ถุงมือขนาดเล็กก็ได้ค่ะ ราคาหลักร้อย แต่สามารถถักนิตติ้งได้ง่ายและรวดเร็ว บีว่าคุ้มที่จะถอยมาไว้ติดบ้านสักเครื่องค่ะ
สำหรับใครที่สนใจสั่งซื้ออุปกรณ์ชุดนี้ เข้าไปดูได้ที่ Banggood ค่ะ
ส่วนใครอยากได้ชิ้นงานขนาดใหญ่กว่านี้ ก็ต้องเลือกเครื่องที่มีขนาดใหญ่ขึ้นค่ะ
หวังว่าผู้อ่านทุกท่านจะถูกใจกับบทความนี้
พบกันใหม่ในบทความต่อไป
สวัสดีค่ะ